‘บ้านอีต่อง’ หมู่บ้านน่ารักๆ ที่มีหมอกตลอดปี
หะโหลลลลล สวัสดีค่าคือว่าเราจะมาเล่าเรื่องของหมูบ้านน่ารักๆแห่งหนึ่งให้ฟัง เป็นหมู่บ้านในหมอกที่อากาศหนาวตลอดปี อยู่ใกล้แค่กาญจนบุรีนี่เองแกรรร ขับรถประมาณ 5 ชั่วโมง ผ่าน 399 โค้งก็ได้นอนฟินๆแบบไม่พึ่งแอร์คอนดิชั่นแล้วจ้า ซึ่งบ้านอีต่องเนี่ย (ใครคิดชื่อวะ น่ารักอ่ะ5555) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ - เล็กมาก ตั้งอยู่บนอำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ใกล้ๆกับสังขละบุรี ชายแดนไทย พม่า นั่นแหละ ในหมู่บ้านส่วนใหญ่เลยเป็นชาวพม่า มีวัฒนธรรมแบบชาวพม่าค่ะ ผู้คนที่นั่นน่ารัก เด็กๆเยอะ น้องหมาก็เยอะ อากาศก็ดี คือเป็นสถานที่เที่ยวที่ชิวมากกกก เหมาะกับการไปพักผ่อนแบบ 'พัก' จริงๆอ่ะ ไม่ค่อยมีกิจกรรมอะไรให้ทำไปเพื่อนั่งๆนอนๆ เดินเล่นสูดอากาศ สำหรับเราที่เคยไปแม่กำปองมาแล้ว คิดว่าที่นี่สามารถทดแทนได้นะ อากาศดีเหมือนกัน แถมใกล้และคนน้อยกว่าด้วยนะเอ้อออ
ตามที่เกริ่นไปข้างบน คือกว่าจะไปถึงเนี่ยเราต้องผ่านทั้งหมด 399 โค้ง (อันนี้ชั้นไม่ได้นับ มีคนนับไว้ให้ไม่รู้ถูกต้องมั๊ยใครอยากไปลองนั่งนับก็ได้ไม่ว่ากัน) ซึ่งถ้าถามเราที่เป็นคนนั่งบนรถเนี่ยก็ดีอ่ะ ชิวมาก เปิดกระจกรับลมสองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้ แต่คนขับนางแอบบ่นว่าไกล นางเมื่อยขา เข้าโค้งเยอะ เราเลยอยากให้ความรู้เพิ่มเติมจากที่ไปลองศึกษาด้วยตัวเองมาเนี่ย บ้านอีต่องเราไม่ต้องขับรถไปเองก็ได้นะ มีรถสาธารณะเข้าไปโดยการนั่งรถไปลงที่ บขส. กาญจนบุรี แล้วต่อรถไปอำเภอทองผาภูมิ แล้วค่อยต่อรถสองแถวขึ้นไปที่หมู่บ้านอีต่อง ซึ่งระยะเวลาการเดินทางก็จะนานกว่าขับรถไปเองพอสมควรเลย ใครเวลาเหลือๆ ไม่มีรถ หรือขี้เกียดขับก็นั่งรถไปก็ได้เด้อออ
ก่อนจะถึงหมู่บ้านอีต่องจะมีจุดให้แวะพักด้วยนะ เป็นจุดรับสัญญาณโทรศัพท์ และจุดชมวิว เพราะตลอดระยะเวลาที่ขับเข้ามาจะไม่มีสัญญาณเลย เราแวะถ่ายรูปเล่นที่จุดชมวิวนี่พักใหญ่ๆเลยแหละ เพราะตอนนั้นคิดว่าจุดนี้คือว้าวมากกกก ไม่ต้องขึ้นเหนือก็เจอภูเขาได้ แต่จริงๆแล้วเทียบไม่ได้กับอีกวิวข้างบนเลย
กลับมาที่หมู่บ้านต่อ คือจะเม้าท์ว่าหมาเยอะ และหมาที่นั่นชิวมากกก ใช้ชีวิตกันสโลไลฟ์ตามสภาพอากาศจริงๆ นอนกลางถนน ไม่มีการหลบให้รถหรือคนใดๆ ทั้งนั้น แล้วเราคิดไปเองป่าวไม่รู้นะ แต่หมามันขี้เซาอ่ะ มันนอนกันทั้งวันเลย แต่ก้เข้าใจมันนะ อากาศมันดีจนอยากจะนอนทั้งวันจริงๆนั่นแหละ
สมัยก่อนชาวบ้านส่วนใหญ่ที่นี่ทำเหมืองแร่ค่ะ ตอนเราเดินเล่นรอบๆหมู่บ้านแอบเห็นเหมืองแร่อยู่ไกลๆ แต่เข้าไปไม่ได้
ระเบียงป้ายไม้ เขียนป้ายไม้สุดคลาสสิคริมบ่อน้ำมาเขียนป้ายไม้สุดคลาสสิคไว้เป็นที่ระลึก ครั้งหนึ่งได้มาเยือนบ้านอีต่องก็เก๋ไก๋.......
เราเดินเล่นไปเรื่อยๆจนเจอสะพานข้ามลำธานน้ำเล็กๆ สวยอย่างกับว่าตรงนี้ถูกจัดไว้เพื่อให้เราได้มาถ่ายรูปโดยเฉพาะเลย
บรรยากาศในหมู่บ้านตอนใกล้ค่ำยิ่งเงียบลงกว่าเดิม ยิ่งพอมืดแล้วเหมือนทุกคนปิดบ้านเข้านอนกันหมด เงียบสงบมากๆจนเราไม่กล้าส่งเสียงดังเลย แต่ว่าขอบ่นหน่อย คือหมู่บ้านอีต่องเนี่ยกำลังเป็นที่นิยมในหมู่กลุ่มรถบิกไบค์ (รึเปล่า ไม่แน่ใจแต่จากที่เห็นน่าจะนิยมอยู่แหละ) เลยทำให้มีกลุ่มรถบิกไบค์ขี่รถเข้ามาเที่ยวที่หมู่บ้านกันเยอะ ซึ่งเราไม่ได้ติดใจอะไรเลย ตอนขับสวนกันผ่าน 399 โค้งเห็นพี่ๆเค้าเข้าโค้งมาท่าแบบวาเลนติโน่ รอสซี่ เรายังนึกชื่นชมว่าพวกพี่เค้าเท่ห์ดี แต่เรื่องมันมีอยู่ว่า เราเจอรถบิกไบค์คันนึง(คันเดียวจากหลายๆคันที่มาเที่ยวกลุ่มเดียวกัน ไม่ได้เหมาะรวมนะจ๊ะ) ขี่เข้าไปในตัวหมู่บ้าน ในส่วนที่เป็นบ้านพักอาศัยของชาวบ้านแถวนั้นตอนเวลาดึกๆ ซึ่งรถพี่เสียงดังมากกกก แล้วในหมู่บ้านก็เงียบมากกกก แล้วระยะทางจากที่พักพี่กับตรงนั้นมันใกล้มากกกกก คือเราเห็นแล้วแบบ เดินเถอะค่ะพี่ เค้านอนกันหมดแล้ว! เราอยากฝากคนที่จะไปคือเราเข้าไปเที่ยวในที่ๆเป็นที่ของเค้าอ่ะค่ะ เค้าอยู่กันมาก่อน ซึ่งก็จริงที่เค้าเต็มใจเปิดให้พื้นที่ตรงนั้นเป็นแหล่งท่องเที่ยว เราเที่ยวได้ค่ะ แต่อย่าไปทำลายให้สภาพแวดล้อมของเค้าแย่ลงเลย จบการบ่น
มาต่อกันที่เรื่องสำคัญอย่าง ของกิน คือในนั้นะมีร้านอาหารอยู่ประมาณ 3-4 ร้าน วันศุกร์ - เสาร์ น่าจะปิดดึกหน่อย แต่เราไปวันอาทิตย์ ครัวเลยปิดถึงแค่ 3 ทุ่ม แต่นั่งทานต่อได้เรื่อยๆ อาหารอร่อย ราคาไม่แพง มีอาหารทะเลจากทะเลอันดามันพม่าด้วยนะ แต่เราไม่มีหลักฐานมาเลย เพราะไม่ถนัดถ่ายรูปของกิน จะเน้นไปที่การยัดเข้าปากอย่างเดียวมากกว่า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น